ระบบ CRM หรือโปรแกรม CRM คืออะไร ใช้กับงานขายยังไงให้เกิดประโยชน์สูงสุด

หลายๆท่านอาจจะยังไม่รู้จักกับคำว่าระบบ CRM คืออะไร เป็นระบบที่ออกแบบมาเพื่อใคร ใช้งานอย่างไร หรือหลายๆคนอาจจะเคยใช้งานกันมาบ้างแล้วแต่สุดท้ายก็ต้องเลิกใช้ไป เพราะไม่เข้าใจการทำงานของระบบ CRM ทำให้นำไปใช้งานแบบผิดวัตถุประสงค์ ไม่ได้ในสิ่งที่ตัวเองคาดหวัง จนเลิกใช้ไปในที่สุด วันนี้ JUBILI by BUILK จะมาแนะนำให้รู้จักกันว่า CRM คืออะไร และนำไปใช้งานกับองค์กร โดยเฉพาะงานขายอย่างไรให้เกิดประโยชน์สูงสุด มาดูไปพร้อมๆกัน

ระบบ CRM คืออะไร?

ระบบ CRM หรือโปรแกรม CRM ชื่อเต็มๆคือ Customer Relationship Management หรือเรียกเป็นภาษาไทยที่ง่ายๆคือ ระบบบริหารความสัมพันธ์ลูกค้าและการจัดการทีมขาย โดยส่วนมากระบบจะเน้นใช้งานเพื่อจัดการพฤติกรรมและข้อมูลลูกค้าเป็นส่วนใหญ่เช่น ข้อมูลบริษัท ลูกค้า ช่องทางการสื่อสารกับลูกค้า สินค้าและพฤติกรรมการซื้อเป็นต้น เพื่อให้องค์กรนำข้อมูลเหล่านั้นมาต่อยอด วิเคราะห์ เพื่อใช้ในการวางแผนการตลอดและการขายให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น เพราะส่วนมากแล้วระบบบัญชี (ERP) จะไม่นิยมและไม่สนใจในการจัดเก็บข้อมูลเหล่านี้

จัดเก็บข้อมูลลูกค้าไปเพื่ออะไร?

หลายๆองค์กรอาจจะกำลังสงสัยว่า เราจำเป็นต้องมีข้อมูลลูกค้าจัดเก็บไปเพื่ออะไร มันสามารถนำไปใช้ประโยชน์อะไรได้ต่อ? จริงๆ แล้วข้อมูลพฤติกรรมลูกค้า สามารถนำใช้งานได้หลายอย่าง โดยเฉพาะการนำกลับมาใช้กับงานขาย เพราะเป็นข้อมูลที่สะท้อนถึงตัวลูกค้าของคุณ เค้าชอบอะไร ไม่ชอบอะไร เราควรพัฒนาสินค้าตัวไหนให้ตอบโจทย์ลูกค้า และทีมขายของเราควรจะสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้าตัวอย่างไรให้เกิดยอดขายได้จริงๆ

ประโยชน์และผลดีจากการบริหารงานขายด้วยระบบ CRM

1. ข้อมูลงานขายถูกจัดเก็บอย่างเป็นระเบียบ

ปัญหาขององค์กรส่วนใหญ่คือข้อมูลทุกอย่างมักจะถูกจัดเก็บอยู่ในรูปแบบของกระดาษ และกระจัดกระจาย จัดเก็บอย่างไม่เป็นระเบียบ โดยเฉพาะข้อมูลรายชื่อลูกค้าที่มักจะอยู่กับเซลล์แต่ละคน เมื่อเซลล์ลาออกปัญหาที่ตามมาคือรายชื่อลูกค้าหายตามไปด้วย การนำระบบบริหารงานขายเข้าไปช่วย จะช่วยให้ข้อมูลลูกค้าถูกรวมไว้อยู่ในที่เดียวกันซึ้งเป็นขององค์กร เรียกขึ้นมาใช้ หรือส่งต่อให้ทีมได้อย่างง่ายดาย

2. ทุกคนในองค์กรเห็นข้อมูลที่เท่าเทียมกัน

ระบบบริหารงานขายส่วนใหญ่ออกแบบมาเพื่อทีมขายก็จริง แต่จริงๆแล้วระบบเหล่านี้ไม่ใช่มีแค่ทีมขายที่ได้ประโยชน์ แผนกต่างๆสามารถเข้ามาดูข้อมูลเพื่อนำไปช่วยให้การทำงานง่ายขึ้นได้ เช่นแผนกบัญชีที่สามารถดูข้อมูลการเสนอราคา ข้อมูลใบสั่งขาย ที่ทีมขายบันทึกข้อมูลไว้ได้ทันที แผนกการตลาดก็เช่นกันที่สามารถนำข้อมูลพฤติกรรมลูกค้าเช่น ระยะเวลาการตัดสินใจ สินค้าที่ซื้อได้ทันทีเช่นกัน

3. เพิ่มยอดขายได้

ระบบบริหารงานขายจะเพิ่มยอดขายได้อย่างไร? มีส่วนในการเพิ่มยอดขายได้เพราะระบบส่วนใหญ่จะมี Sales Funnel (กรวยกระบวนการขาย) ที่จะช่วยให้เห็นแนวโน้มของลูกค้าที่จะซื้อได้ว่ากลุ่มลูกค้าส่วนใหญ่อยู่ในระดับใดแล้ว ช่วยเพิ่มโฟกัสให้นักขาย และโอกาสการปรับสถานะของลูกค้าที่สนใจให้เป็นลูกค้าที่เป็นยอดขายได้มากขึ้น

4. เพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน ลดต้นทุนขององค์กร

การเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน ลดต้นทุนขององค์กรโดยใช้ระบบ CRM เข้าไปช่วยเกิดจากข้อมูลที่เกิดขึ้นบนระบบเช่น ประสิทธิภาพการติดต่อสื่อสารกับลูกค้าในแต่ละช่องอันไหนได้ผลดีที่สุด หรือช่วงเวลาไหนที่ทีมขายติดต่อลูกค้าแล้วมีโอกาสปิดการขายได้มากที่สุด สินค้าประเภทใดจำหน่ายผ่านช่องทางใดได้ยอดขายได้มากที่สุด สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นข้อมูลที่ระบบบัญชีให้คุณไม่ได้ และเพิ่มประสิทธิภาพ ช่วยลดต้นทุนขององค์กรให้ใช้ไปกับสิ่งที่มีประสิทธิภาพสูงสุดได้

5. เพิ่มความพึงพอใจของลูกค้า

เพราะชื่อของมันคือ ระบบบริหารความสัมพันธ์ลูกค้า ดังนั้นข้อมูลต่างๆที่ถูกเก็บไว้บนระบบทั้งหมดล้วนแต่จะเข้ามามีส่วนใหญ่ในการเพิ่มความพึงพอใจของลูกค้ากับองค์กรของคุณ ไม่ว่าจะเป็นตั้งแต่เรื่องเล็กๆน้อยๆ เช่นการลืมตามงานลูกค้าจะหมดไปเพราะระบบจะมีการเตือนงานที่ทีมต้องติดตามในแต่ละวัน ไปจนถึงการส่งเอกสารต่างๆให้ถึงมือลูกค้าได้ไว้ขึ้นจากการส่งผ่านระบบออนไลน์ได้ทั้งหมด เป็นต้น

 

สำหรับ JUBILI by BUILK ของเราก็เป็นหนึ่งในระบบ CRM ที่ออกแบบมาเพื่อองค์กรธุรกิจ B2B ทุกประเภท ซึ่งจะเน้นด้านการเพิ่มประสิทธิภาพของทีมขายโดยเฉพาะ เปรียบเสมือนหัวหน้าทีมที่พร้อมจะโค้ชทีมขายของคุณด้วยข้อมูลบนระบบ พร้อมทั้งฟีเจอร์ต่างๆที่ตอบโจทย์การทำงานของทีมขายอย่างแน่นอน

เริ่มต้นง่ายๆวันนี้ด้วย JUBILI by BUILK ระบบ CRM
เพื่อบริหารทีมขายแบบ B2B

ทดลองใช้ฟรี 15 วัน

สามารถติดตามข่าวสารจาก JUBILI by BUILK ได้จากช่องทาง

หรือ