เปิดให้บริการ จ.- ศ. (08.00-17.00 น.)

YELLO TIPS การเกิดฝุ่นที่ผิวหน้าคอนกรีต (Dusting Concrete Surfaces) มีวิธีการแก้ไขอย่างไร

การเกิดฝุ่นที่ผิวหน้าคอนกรีต (Dusting Concrete Surfaces)

การเกิดฝุ่นที่ผิวหน้า คอนกรีต เป็นการสะสมของวัสดุที่มีลักษณะเป็นผงหรือเป็นฝุ่นอยู่ที่บริเวณผิวหน้าของคอนกรีตที่แข็งตัวแล้ว ซึ่งส่วนใหญ่จะเกิดขึ้นกับโครงสร้างคอนกรีตประเภทพื้นและผิวถนน โดยจะเกิดภายหลังจากการใช้งานหรือถูกขัดสีไปแล้วระยะเวลาหนึ่ง  

สาเหตุที่ทำให้ผิวหน้าของคอนกรีตเป็นฝุ่น

ฝุ่นที่ผิวหน้า คอนกรีต มีสาเหตุมาจากการที่ผิวหน้าคอนกรีตมีความอ่อนแอไม่สามารถต้านทานการขัดสีซึ่งเกิดขึ้นโดยปกติ หรืออาจถูกขีดข่วนด้วยวัตถุที่มีความแข็งหรือการกวาดพื้น อนุภาคของส่วนละเอียดไม่มีแรงยึดเหนี่ยวกับเนื้อคอนกรีตทำให้อนุภาคของส่วนละเอียดนี้หลุดร่อนออกมา โดยมีสาเหตุหลักในการเกิดดังนี้

  • การเลือกใช้ คอนกรีต ไม่ถูกกับประเภทของงาน เช่น เลือกใช้ คอนกรีต ที่มีกำลังอัดต่ำเกินไปและมีความสามารถรับการขัดสีได้น้อย 
  • ปริมาณน้ำในส่วนผสม คอนกรีต ที่มากเกินไปหรือมีการเติมน้ำที่หน้างาน เป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดการเยิ้มขึ้นที่ผิวหน้าคอนกรีต ซึ่งการเยิ้มของน้ำที่มากไปนั้นจะนำน้ำและส่วนละเอียดต่างๆ ลอยขึ้นมาอยู่ที่ผิวหน้าของพื้นคอนกรีต ส่งผลให้ผิวหน้าไม่แข็งแกร่งและเป็นฝุ่นได้ง่าย 
  • การแต่งผิวหน้าคอนกรีตที่เร็วเกิน ก่อนที่น้ำจะเยิ้มขึ้นมาที่ผิวหน้า การแต่งผิวหน้าในช่วงเวลาดังกล่าวจะทำให้น้ำที่กำลังเยิ้มขึ้นมา ถูกดันกลับเข้าไปในเนื้อคอนกรีต ดังนั้นผิวหน้าคอนกรีตจึงมีอัตราส่วนน้ำต่อซีเมนต์สูงกว่าที่ออกแบบ ส่งผลให้ผิวหน้าคอนกรีตขาดความแข็งแกร่ง 
  • น้ำส่วนเกินจากในระหว่างการแต่งผิวหน้าคอนกรีต เช่น การฉีดพ่นน้ำลงบนพื้นคอนกรีตเพื่อที่จะได้ขัดหน้าได้สะดวกขึ้น 
  • ไม่มีการป้องกันผิวหน้าคอนกรีตที่ยังไม่แข็งตัว ขณะเกิดฝนตก 
  • ขาดการบ่มที่เพียงพอ โดยผิวหน้าของคอนกรีตถูกปล่อยให้สูญเสียน้ำออกไปอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะในสภาวะที่อากาศร้อน ความชื้นในอากาศต่ำและมีลมพัดแรง ทำให้ความแข็งแรงของผิวหน้าคอนกรีตลดลง ดังนั้นการบ่มคอนกรีตอย่างถูกต้องจึงเป็นสิ่งที่จำเป็นเพื่อที่จะได้คอนกรีตที่มีคุณภาพและมีผิวหน้าที่ทนทาน 
  • การอัดแน่นหรือการจี้เขย่าที่ไม่ถูกต้องและเพียงพอ 
  • การสาดปูนซีเมนต์ผงในขณะที่ทำการแต่งผิวหน้าคอนกรีต เป็นการเพิ่มปริมาณส่วนละเอียดให้กับผิวหน้าคอนกรีตให้มากขึ้น ซึ่งทำให้ชั้นของผิวหน้าคอนกรีตไม่แข็งแรง 
  • การเทคอนกรีตบนพื้นดิน ที่มีการดูดซับต่ำหรือมีการปูแผ่นพลาสติกหรือใช้น้ำยากันการระเหยของไอน้ำประเภท Polyethylene 
  • การเกิด Cabonation ที่ผิวหน้าเนื่องจากไม่มีอากาศถ่ายเทและมีก๊าซคาร์บอนไดอ๊อกไซด์สูง 

วิธีการลดความเสี่ยงต่อการเกิดปัญหาผิวหน้าคอนกรีตเป็นฝุ่น 

  • เลือกใช้คอนกรีตให้เหมาะสมกับงานประเภทต่างๆ อย่างถูกต้อง โดยต้องคำนึงถึงกำลังอัดและความสามารถในการต้านทานต่อการขัดสี ซึ่งยิ่งคอนกรีตมีอัตราส่วนของน้ำต่อวัสดุประสานต่ำก็จะยิ่งทนการขัดสีได้ดี 
  • ไม่เติมน้ำเพิ่มลงในคอนกรีตที่หน้างานอีก 
  • ในการเทคอนกรีตในหน้าหนาว ควรเลือกใช้คอนกรีตที่มีค่ายุบตัวที่ไม่สูงมาก (ไม่ควรเกิน 8 ซม.) เนื่องจากระยะเวลาการก่อตัวที่นานขึ้น จะทำให้เกิดการเยิ้มที่ผิวหน้าคอนกรีตมากกว่าเดิม ดังนั้นจึงไม่ควรใช้คอนกรีตที่มีค่ายุบตัวสูง ส่วนการเทคอนกรีตในหน้าร้อนสามารถเลือกใช้คอนกรีตที่มีค่ายุบตัวสูงขึ้น ตราบที่ระยะเวลาการก่อตัวและการเยิ้มยังอยู่ในเกณฑ์ที่ยอมรับได้ โดยที่ส่วนผสมคอนกรีตจะต้องไม่เกิดการเยิ้มที่มากเกินไปหรือเกิดการแยกตัวเมื่อเทคอนกรีต 
  • ไม่ควรทำการแต่งผิวหน้าในขณะที่ยังมีการเยิ้มที่ผิวหน้าของคอนกรีต เพราะจะเป็นการทำให้น้ำที่กำลังจะลอยขึ้นมาที่ผิวหน้าถูกกักกลับไปใต้ผิวคอนกรีตอีก ยิ่งกว่านั้นยังเป็นการดึงฝุ่นและทรายขึ้นมาอยู่ที่ผิวหน้าอีกด้วย 
  • ถ้าเกิดฝนตกในขณะที่ผิวหน้าคอนกรีตยังไม่แข็งตัว ให้หาวัสดุที่สามารถกันน้ำได้ เช่น แผ่นไม้ หรือ แผ่นพลาสติก มาคลุมที่ผิวหน้าไว้เพื่อป้องกันการชะล้างบริเวณผิวหน้าคอนกรีต ส่วนการแต่งผิวหน้าด้วยเครื่องขัดหรือการใช้เกรียงแต่งผิวหน้าคอนกรีตนั้น จะต้องรอให้น้ำที่เยิ้มขึ้นมาที่ผิวหน้าระเหยออกไปให้หมดเสียก่อน 
  • ห้ามสาดปูนซีเมนต์ผง เพื่อดูดซับน้ำที่เยิ้มบนผิวหน้าคอนกรีต แต่ถ้าต้องการเอาน้ำที่เยิ้มออกไปจากผิวหน้าคอนกรีตก็ให้ใช้สายยางดูดออกหรือใช้ที่ปาดน้ำทำการปาดน้ำที่อยู่ที่ผิวหน้าคอนกรีตแทนการสาดปูนซีเมนต์ผง 
  • ห้ามพรมผิวหน้าคอนกรีตด้วยน้ำเพื่อให้การแต่งผิวหน้าง่ายขึ้น 
  • ในการอัดแน่นบริเวณผิวหน้าของพื้นคอนกรีตด้วยเครื่องเขย่าเฉพาะที่ผิวหน้านั้น จะช่วยทำให้ผิวหน้าคอนกรีตมีความต้านทานต่อการขัดสีดียิ่งขึ้น 
  • ทำการบ่มทันทีหลังจากเสร็จสิ้นการแต่งผิวหน้าและคอนกรีตเริ่มแข็งตัว โดยทำการบ่มอย่างน้อย 3-7 วัน ซึ่งขึ้นอยู่กับประเภทของคอนกรีตและโครงสร้าง อาจใช้ได้หลายวิธี เช่น การบ่มโดยใช้น้ำยาบ่มคอนกรีตหรือใช้แผ่นพลาสติกคลุม เป็นต้น สำหรับงานที่ต้องการความสวยงามของพื้นผิวควรหลีกเลี่ยงการบ่มโดยการคลุมด้วยกระสอบหรือทราย เนื่องจากอาจจะทิ้งคราบตกค้างอยู่บนพื้นผิวคอนกรีตหลังจากการบ่มได้ 

 

วิธีการซ่อมผิวหน้าคอนกรีตที่เป็นฝุ่น 

การซ่อมแซมผิวหน้าคอนกรีตที่เป็นฝุ่นเป็นเรื่องที่ยุ่งยากมาก วิธีการที่ดีที่สุดคือการลดความเสี่ยงที่จะเกิด ตามวิธีการที่กล่าวมาแล้ว สำหรับวิธีการซ่อมแซมที่แนะนำมีดังนี้

  • หากเกิดขึ้นไม่มาก อาจใช้วิธีขัดด้วยแปรงลวด อย่างเช่นการทำความสะอาดถนนด้วยรถขัดทำความสะอาดของ กทม. 
  • การประยุกต์ใช้วิธีการทางเคมี โดยจะเพิ่มความแกร่งของผิวหน้ารวมทั้งป้องกันฝุ่นบนผิวหน้าคอนกรีต ซึ่งวิธีการนี้จะใช้สารเคมีจำพวก sodium silicate (water glass) หรือ magnesium fluoro-silicate เมื่อสารเคมีซึมเข้าสู่คอนกรีต จะทำปฏิกิริยาทางเคมีกับแคลเซียมไฮดรอกไซด์ และเกิดตัวเชื่อมประสานหรือ Calcium Silicate Hydrate เพิ่มขึ้น วิธีการนี้สามารถใช้ได้กับคอนกรีตที่มีอายุ 28 วันขึ้นไป สำหรับความเสียหายของพื้นผิวหน้าคอนกรีตที่หลุดร่อนออกเป็นแผ่น ๆ จะไม่สามารถใช้วิธีการนี้ได้ หากวิธีนี้ไม่ได้ผลอาจใช้วิธีโค้ทหน้าคอนกรีตด้วย Epoxy Sealers หรือ Cement Paint แต่ราคาจะแพงมากสำหรับในประเทศไทย 
  • การขัดผิวหน้าที่เป็นฝุ่นออก วิธีการนี้จะใช้ในกรณีที่ผิวหน้าคอนกรีตเกิดเป็นฝุ่นอย่างรุนแรง โดยการใช้เครื่องขัดผิวหน้าคอนกรีต ทำการขัดผิวหน้า (Wet-grinding) ที่อ่อนแอออก ให้เรียบจนกระทั่งเห็นเม็ดหิน ซึ่งโดยทั่วไปต้องขัดลึกประมาณ 3 มม. 
  • วิธีการทับหน้า (topping) โดยการสกัดเอาส่วนผิวหน้าที่อ่อนแอออกแล้วจึงทำการเท topping ทับเพื่อปรับระดับให้ได้ตามที่ต้องการ ส่วนวัสดุที่ใช้ในการเททับนั้นมีอยู่ประเภท ซึ่งควรเลือกใช้ประเภทที่มีแรงยึดเกาะสูง 
  • สำหรับบ้านพักอาศัย อาจทำการใช้วัสดุตกแต่งปิดทับผิวหน้าคอนกรีตได้เลย อาทิเช่น การปูพรมหรือการปูกระเบื้อง แต่กรณีนี้จะส่งผลให้ราคาค่าก่อสร้างสูงขึ้น 

 

ห้ามพลาด! ลูกค้าที่ต้องการติดตามทุกเรื่องเกี่ยวกับวัสดุก่อสร้างหรือดีลพิเศษจาก YELLO วัสดุก่อสร้างออนไลน์
แอด LINE ตอนนี้ พบกับดีลและโปรโมชั่นดีๆที่เราคัดสรรมาเพื่อชาวก่อสร้างโดยเฉพาะ!

 

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • Google Analytic and Facebook Pixel

    เราได้มีการใช้งาน Google analytic และ Facebook Pixel เพื่อช่วยให้เราส่งมอบประสบการณ์การใช้งานของเว็บไซต์ได้อย่างดียิ่งขึ้น

Save