จากบทความที่แล้ว ใครๆ ก็เริ่มต้นได้ กับ O2O Commerce ที่กำลังมาแรงในยุคนี้ เราได้รู้มาแล้วว่า O2O Commerce เป็น โมเดลธุรกิจ ที่เชื่อมต่อคนบนโลกออนไลน์กับออฟไลน์เข้าด้วยกัน ซึ่งเป็นการเปิดโลกกว้างให้ทุกคนสามารถเข้าถึงสินค้าและบริการได้อย่างไม่จำกัด และวันนี้ เราจะมาดูกันว่า ชาติมหาอำนาจอย่างจีน ที่เป็นเจ้าตลาด O2O ทำไมจึงนิยมใช้กันอย่างแพร่หลาย และพวกเขาทำอย่างไรจึงประสบความสำเร็จ
“O2O จีนทำมาแล้วนาน 10 ปี”
O2O ในจีนจริงๆเริ่มมานานแล้ว ตั้งแต่ปี 2011 และมีอัตราการเติบโตขึ้นเรื่อยๆ ถึงแม้ช่วงนี้จะชะลอตัว แต่ไม่ได้หมายความว่าเลิกนิยมใช้กัน นั่นหมายถึงการทำ O2O ของจีนครอบคลุมทุกกลุ่มธุรกิจแล้ว วันนี้เราจะมาดูเคสสตัดดี้จากจีน ว่าจะสามารถนำมาปรับใช้กับธุรกิจของเราได้อย่างไรบ้าง
- Food Delivery ความเด่นชัดของการนำ O2O มาใช้ในธุรกิจอาหารได้รับความนิยมอย่างมากในจีน เนื่องจากประชากรในจีนมีจำนวนมาก นี่จึงเป็นทางเลือกที่อำนวยความสะดวกให้กับพวกเขาได้มาก เช่นการสั่งอาหารผ่านแอพพลิเคชั่น แล้วทางร้านจะจัดส่งอาหารไปยังร้านที่ร่วมรายการตามข้อมูลที่ได้รับจากแอพฯ
- บริการขนส่ง อีกหนึ่งบริการที่นิยมใช้กันมากคือบริการรับ-ส่งสิ่งของ รับซักรีด รับจองตั๋วหนัง แลกเปลี่ยนของมือสอง เพราะสามารถลดขั้นตอนในการใช้ชีวิตในแต่ละวันของพวกเขาได้ เพียงใช้แค่โทรศัพท์มือถือ ทุกอย่างที่เคยทำก็จะสะดวก ง่ายยิ่งขึ้น
- Online Shopping จีนเป็นผู้นำของโลกด้านการช้อปปิ้งออนไลน์ จากตัวเลขของ “อาลีบาบา” สามารถทุบสถิติยอดขายจากแคมเปญ 11.11 ที่มีรายได้ พันล้านภายใน 2 นาทีและเพิ่มเป็นหลักหมื่นล้านภายใน 2 ชั่วโมง และอีกแคมเปญคือการร่วมมือกับแบรนด์ระดับโลกจัดแฟชั่นโชว์มาราธอนนาน 4 ชั่วโมง ก่อนคืนวัน 11.11 ออกอากาศทางโทรทัศน์และเว็บไซต์นำแพลตฟอร์มสื่อและอีคอมเมิร์ซผสานกัน โดยผู้บริโภคที่กำลังชมในขณะนั้นสามารถสั่งซื้อสินค้าที่ขึ้นบนหน้าจอได้ทันที
- ธุรกิจร้านโชว์ห่วยสุดไฮเทค การพลิกโฉมร้านโชว์ห่วยบ้านๆให้กลายเป็นร้านโชว์ห่วยสุดไฮเทคของจีนนั้นเป็นเรื่องที่ได้รับความนิยมมาอย่างต่อเนื่อง โดยลูกค้าสามารถสั่งซื้อสินค้าจากเว็บ E-Commerce ชำระเงินผ่านโทรศัพท์ฯ และมารับที่ร้านได้ หรือการสแกนบาร์โค้ดสินค้าแล้วชำระเงินออนไลน์ของซูเปอร์มาร์เก็ต ก็เป็นอีกตัวอย่างที่สามารถนำเอา โมเดลธุรกิจ O2O มาใช้ได้เกิดประสิทธิภาพ
การนำเทคโนโลยีมาใช้ร่วมกับระบบออฟไลน์เป็นอีกกลไกสำคัญที่ทำให้เจ้าของธุรกิจนั้นรู้ว่า ยอดขายของพวกเขานั้นจะไปในทิศทางใด โดยสามารถพยากรอนาคตได้ และที่สำคัญคือสามารถรู้ได้ว่าสินค้าตัวไหนขายดีที่สุด หรือขายไม่ดีหลังจากนั้นก็จะนำข้อมูลพวกนี้ไปทำแคมเปญหรือโปรโมชั่นต่างๆเพื่อเรียกยอดขายได้อีกครั้ง และสามารถนำข้อมูลลูกค้าไปให้คะแนนเครดิตลูกค้าเพื่อสร้างความพึงพอใจสูงสุดได้
-5 แนวทางปรับใช้ โมเดลธุรกิจ O2O ของผู้ค้าวัสดุก่อสร้าง-
ณ ตอนนี้ O2O ถือว่าไม่ใช่เรื่องไกลตัวแล้ว เพราะมันกำลังแทรกแซงเข้ามาในชีวิตประจำวันของเราด้วยและเป็นเทรนที่กำลังมาแรง โดยเฉพาะผู้ประกอบการ O2O ไม่ได้เฉพาะเจาะจงว่า เหมาะกับใคร หรือธุรกิจแบบไหน แต่ทุกธุรกิจสามารถนำไปปรับใช้ได้และไม่มีอะไรตายตัวการปรับใช้นั้นขึ้นอยู่กับสถานการณ์ ณ ปัจจุบันหรือแนวโน้มที่อาจจะเกิดขึ้นก้ได้ แล้วการปรับตัวควรทำอย่างไร???
- เชื่อมต่อทั้งสองช่องทางอย่างลงตัว การทำให้ช่องทางออฟไลน์กับออนไลน์เป็นไปในทิศทางเดียวกัน เป็นเรื่องสำคัญของการปรับใช้ โมเดลธุรกิจ O2O หากเน้นออฟไลน์มากเกินไป คนที่รู้จักเราจะอยู่ในวงแคบเท่านั้น แต่ถ้าหากเน้นออนไลน์มากเกินไปจนบางทีเราลืมให้ความสำคัญกับหน้าร้านหรือออฟไลน์ ความน่าเชื่อถือของเราก็จะลดน้อยลง ดังนั้นเราควรจะปรับให้ทั้งสองไปด้วยกันได้อย่างเหมาะสมแค่นี้ธุรกิจเราก็ปังยอดขายก็จะเพิ่มขึ้นแน่นอน
- หน้าร้านเป็นจุดสำคัญ หน้าร้านเราถือเป็นจุดสำคัญที่จะสร้างความน่าเชื่อถือ และความไว้วางใจให้กับลูกค้า และสิ่งสำคัญอีกอย่างคือพนักงานร้านที่คอยให้ข้อมูลแนะนำลูกค้าตลอดจนการสร้างความพึงพอใจ
- สื่อโซเชียลและแพลตฟอร์มสร้างตัวตน การสร้างตัวตนให้คนรู้จักเรามากขึ้นจากที่รู้จักในบางพื้นที่ก็จะรู้จักไปทุกพื้นที่ เราก็ต้องอาศัยสื่อโซเชียลในการเคลื่อนไหวเรื่องราวต่างๆที่เราอยากบอกต่อ แนะนำ หรือพูดคุยกับลูกค้า และอีกตัวสำคัญคือการสร้างตัวตนบนแพลตฟอร์มของตัวเอง อาจจะเป็นเว็บไซต์ส่วนตัว เฟซบุ๊คแฟนเพจ หรือไลน์แอด ก็จะช่วยสร้างให้เรามีความน่าเชื่อถือมากขึ้น
- SEO ช่วยค้นหา SEO เป็นการทำการตลาดผ่านคีย์เวิร์ดที่จะช่วยให้ลูกค้าค้นหาเราได้ง่ายขึ้นจากการทำกิจกรรม หรือการโปรโมทต่างๆ ผ่าน Google search
- พลังการบอกต่อ สิ่งสำคัญที่จะชี้วัดว่าเรานำทั้งสองช่องทางมาใช้ได้มีประสิทธิภาพหรือไม่คือพลังการบอกต่อจากปากลูกค้าเอง ซึ่งที่ที่ลูกค้าจะพูดถึงเรานั้น นอกจากปากต่อปากแล้วยังมีพื้นที่บนโลกออนไลน์ให้เขาได้พูดถึงเรา เช่น Pantip Facebook หรือ Community ต่างๆ สิ่งนี้จะสะท้อนให้ลูกค้าคนอื่นๆรับรู้ตัวตนของเราในมุมมองของลูกค้าเช่นกัน
สำหรับผู้ค้าวัสดุก่อสร้างก็อย่าลืมนำ โมเดลธุรกิจ O2O ไปปรับใช้กับธุรกิจอย่างเหมาะสมและเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด BUILK ได้พัฒนาระบบ CRM สำหรับผู้ค้าวัสดุก่อสร้าง JUBILI by BUILK ที่จะช่วยบริหารจัดการหลังบ้านให้สามารถทำงานได้อย่างราบรื่น เพิ่มประสิทธิภาพงานขาย มีโอกาสเข้าถึงผู้รับเหมากว่า 20,000 ร้านทั่วประเทศ ยกระดับการให้บริการ ช่วยดูแลความสัมพันธ์ลูกค้า
สิทธิพิเศษสำหรับ JUBILI Network ด้วยแคมเปญออนไลน์ที่เราจะจัดขึ้นเรื่อยๆ ลูกค้าของ JUBILI จะมีส่วนร่วมกับเรา นอกจากนี้สมาชิกยังสามารถมีหน้าร้านออนไลน์บน BUILK.COM รวมทั้งบริการเพิ่มเติม SEO/SEM ที่จะช่วยให้ร้านของคุณติดหน้าแรกของ Google Search และคอนเทนต์สุดพิเศษแนะนำร้านของคุณโดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย ช่วยสร้างโอกาสการขายได้มากขึ้น
-ให้เรามีส่วนช่วยธุรกิจของคุณเติบโตอย่างไม่สิ้นสุด-
JUBILI by BUILK คือ ระบบ CRM เพื่อการบริหารทีมขาย และวิเคราะห์ประสิทธิภาพการขายแบบ Real-Time ออกแบบมาเพื่อร้านค้าวัสดุก่อสร้าง ที่มีทีมขายงานโปรเจค, ร้านสี, ร้านเมทัลชีท, แพล้นท์ปูน, ผู้จำหน่ายวัสดุตกแต่ง และ ผู้ผลิตสินค้าอุตสาหกรรม ที่ต้องการบริหารทีมขาย ติดตามดูแลความสัมพันธ์ลูกค้า แบบ B2B