สารบัญ
พื้น คือ องค์ประกอบสำคัญที่มีผลต่องานสถาปัตยกรรมทั้งในแง่อรรถประโยชน์การใช้งาน และความสวยงาม โดยส่วนใหญ่แล้ววัสดุปูพื้นที่นิยมใช้แพร่หลายมักจะเป็นกระเบื้อง วัสดุทดแทนไม้จริง พื้นไม้สำเร็จรูป และวัสดุที่ทำจากไม้จริง
พื้นผิว หรือลวดลายไม้แบบธรรมชาติ ยังคงเป็นเป็นสิ่งที่ผู้ใช้งานชื่นชอบ และนิยมใช้งานเป็นอย่างมาก แม้ในปัจจุบันจะมีวัสดุทดแทนไม้จริงผลิตออกมาเพื่อเป็นวัสดุทางเลือกอย่างหลากหลาย แต่ด้วยเสน่ห์ความงดงามแบบธรรมชาติของไม้จริง ก็ยังคงทำให้ผู้ใช้งานเป็นจำนวนมากที่มองหาวัสดุปูพื้น ที่ผลิตจากธรรมชาติ
ในปัจจุบันพื้นไม้สำเร็จรูป Timber Flooring ถือเป็นอีกหนึ่งวัสดุทางเลือกใหม่ที่กำลังได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้น ซึ่งเป็นพื้นไม้สำเร็จรูปที่ผลิตมาจากธรรมชาติสำหรับใช้ในงานตกแต่งปูพื้นภายในโดยเฉพาะ สำหรับพื้นไม้สำเร็จรูป Timber Flooring ที่ว่านี้ จะมีคุณสมบัติในการใช้งานที่น่าสนใจอย่างไรบ้างนั้น ตามมาชมกันได้เลยครับ
พื้นไม้สำเร็จรูป Timber Flooring คืออะไร
พื้นไม้สำเร็จรูป Timber Flooring ผลิตมาจากวัสดุธรรมชาติ โดยการนำไม้ไผ่มาสานกัน แล้วชุบน้ำยา (สารประกอบอินทรีย์) ในปริมาณที่เหมาะสม และบีบอัดขึ้นรูปด้วยแรงดันสูงจนได้เป็นแผ่นไม้ที่มีความแข็งแรง สามารถรับน้ำหนักในการใช้งานได้ตามมาตรฐาน
จากนั้นนำมาผ่านกระบวนการอบไม้ด้วยอุณหภูมิสูง ซึ่งเป็นการไล่ความชื้นเพื่อทำให้เนื้อไม้แห้ง เมื่อไล่ความชื้นแล้วเสร็จก็จะนำมาตัดเป็นแผ่นตามขนาดที่เหมาะสม แล้วเคลือบด้วยน้ำยาเคลือบไม้ พร้อมขัดมันตกแต่งพื้นผิวให้มีความสวยงาม จนออกมาเป็นผลิตภัณฑ์พื้นไม้สำเร็จรูป Timber Flooring ที่เหมาะกับการนำไปใช้ตกแต่งปูพื้นภายในอาคาร
สำหรับส่วนประกอบวัสดุพื้นไม้สำเร็จรูป Timber Flooring ที่ผ่านกระบวนการผลิตจนเสร็จสมบูรณ์แล้ว จะแบ่งออกได้ 4 เลเยอร์ ได้แก่
- ชั้นแกนหลัก
- ชั้นแผ่นรองพื้น
- ชั้นลวดลายไม้
- ชั้นเคลือบผิว
พื้นไม้สำเร็จรูป Timber Flooring มีคุณสมบัติเด่นอย่างไร
- เนื้อไม้มีความหนาแน่นสูง รองรับน้ำหนักได้ดี
- มีความทนทาน โดยมีอายุการใช้งานเฉลี่ย 15-20 ปี (ขึ้นอยู่กับการใช้งาน และการดูแลรักษา)
- ปลวก และแมลงต่างๆไม่มารบกวน เนื่องจากเป็นวัสดุที่อยู่ในระดับเดียวกับไม้เนื้อแข็ง
- รองรับความชื้นได้ดี หากมีการติดตั้งอย่างเหมาะสม
- สีของเนื้อไม้ไม่ซีดจาง แม้มีรอยขีดข่วนบนพื้นผิวของแผ่นไม้
- พื้นผิวของไม้ไม่ลื่น ไม่เย็นเท้า และไม่ทำให้เกิดไฟฟ้าสถิต
- ดูแลรักษา และทำความสะอาดได้ง่าย
- มีลายไม้ให้เลือก 3 เฉดสี ได้แก่ Natural, Teak, Bretange
พื้นไม้สำเร็จรูป Timber Flooring การนำไปใช้งาน
เหมาะกับการนำไปใช้ตกแต่งภายในอาคารเป็นหลัก อาทิเช่น
อาคารที่พักอาศัย เช่น บ้าน คอนโดมิเนียม อะพาร์ตเมนต์ รีสอร์ท และโรงแรม | อาคารสาธารณะ พื้นที่ส่วนกลาง หรือพื้นที่เชิงพาณิชย์ |
|
|
เกร็ดความรู้เพิ่มเติม
- ไม่ควรปูพื้นประเภทนี้ ในบริเวณที่มีความเปียกชื้นตลอดเวลา เพราะความชื้นที่สะสมเป็นเวลานานๆจะสร้างความเสียหายให้กับตัววัสดุได้ และจะทำให้อายุการใช้งานลดลง
- อาจเกิดการบิดงอ และหดตัวได้เช่นเดียวกับพื้นไม้ทั่วไป
- ลวดลาย และเฉดสีมาจากวัสดุธรรมชาติ อาจไม่สามารถควบคุมเฉดสีให้สม่ำเสมอได้ 100%
วิธีการติดตั้งพื้นไม้สำเร็จรูป Timber Flooring
สามารถแบ่งได้ 2 ส่วนหลัก ๆ คือ ขั้นตอนการเตรียมพื้นที่ก่อนการปูพื้นไม้ และขั้นตอนการติดตั้ง โดยมีรายละเอียด ดังนี้
ขั้นตอนการเตรียมการก่อนติดตั้งพื้นไม้สำเร็จรูป Timber Flooring ง่ายๆ เพียงแค่
ทำการรองพื้นบริเวณที่ต้องการปูแผ่นพื้นไม้สำเร็จรูป Timber Flooring ด้วยแผ่น PE โฟมให้เต็มพื้นที่ เท่านั้น
ขั้นตอนการติดตั้งพื้นไม้สำเร็จรูป Timber Flooring
ขั้นตอนที่หนึ่ง
ทำการปูแผ่นพื้นไม้สำเร็จรูป Timber Flooring เพื่อจัดโทนสีภายในห้องให้มีความสม่ำเสมอ โดยเว้นระยะห่างจากผนังโดยรอบประมาณ 7 มิลลิเมตร
ขั้นตอนที่สอง
ติดตั้งแผ่นแรกโดยหันด้านร่องลิ้นเข้าผนัง และกั้นด้วยลิ่มความหนาประมาณ 15 มิลลิเมตร เพื่อให้พื้นไม้มีพื้นที่ในการขยายตัว และติดตั้งแผ่นต่อไป
ขั้นตอนที่สาม
ทากาวที่ร่อง และใช้ค้อนยางเคาะเพื่อให้พื้นไม้ติดแนบสนิท
ขั้นตอนที่สี่
หลังจากทำการติดตั้งแผ่นพื้นไม้จนเต็มห้องแล้ว ให้เก็บความเรียบร้อยของงานด้วยเชิงบัวผนัง และตัวจบ ทิ้งไว้อย่างน้อย 24 ชั่วโมงก่อนเข้าใช้งานภายในห้อง